Neta Auto ยักษ์ใหญ่รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน ยื่นเรื่องล้มละลายอย่างเป็นทางการ ปิดฉากข่าวลือที่ว่า Toyota จะเข้าซื้อกิจการโดยสิ้นเชิง ขณะที่ปัญหาทางการเงินที่รุมเร้ามานานหลายเดือนได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรง จนนำไปสู่การผิดนัดชำระหนี้ซัพพลายเออร์ การระดมทุนที่ล้มเหลว และการประท้วงของพนักงานที่ไม่ได้รับค่าจ้าง สะท้อนภาพวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของจีนที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด
วงการยานยนต์ไฟฟ้าโลกต้องเผชิญกับข่าวใหญ่อีกครั้ง เมื่อ Hozon New Energy Automobile Co., Ltd. บริษัทแม่ของแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า Neta Auto (เนต้า ออโต้) ได้เข้าสู่กระบวนการล้มละลายอย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากประสบปัญหาสภาพคล่องทางการเงินอย่างหนักในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ซึ่งสวนทางกับข่าวลือที่แพร่สะพัดก่อนหน้านี้ว่า Toyota (โตโยต้า) ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นกำลังจะเข้าซื้อกิจการ
สถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน (CCTV) รายงานเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2568 ว่า Neta ได้ยื่นเรื่องขอล้มละลายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน ที่ผ่านมา และล่าสุดมีรายงานว่าศูนย์จำหน่ายและบริการของ Neta หลายแห่งในมหานครเซี่ยงไฮ้ได้ปิดตัวลงแล้ว ตอกย้ำถึงสถานการณ์อันน่าเป็นห่วงของบริษัท
Toyota ปฏิเสธข่าวลือการเข้าซื้อกิจการอย่างสิ้นเชิง
ก่อนที่ข่าวการล้มละลายจะได้รับการยืนยัน ตลาดเคยคาดการณ์ว่า Neta อาจมีทางรอดผ่านการเข้าซื้อกิจการโดย Toyota อย่างไรก็ตาม ข่าวลือดังกล่าวได้ถูกปฏิเสธอย่างชัดเจนจากทั้งสองฝ่าย
นายสวี อี้หมิง (Xu Yiming) หัวหน้าฝ่ายสื่อสารแบรนด์ของ Toyota Motor (China) Investment Co., Ltd. ได้ให้คำตอบกับสื่ออย่างชัดเจนว่า “เราไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน และขอความกรุณาช่วยชี้แจงข่าวลือนี้ให้กระจ่างด้วย” ซึ่งเป็นการสยบข่าวลือทั้งหมดอย่างสิ้นเชิง ในขณะเดียวกัน สื่อหลายสำนักที่ติดต่อไปยัง Neta Auto ก็ได้รับการยืนยันในทิศทางเดียวกันว่าข่าวลือเรื่องการเข้าซื้อกิจการนั้นไม่เป็นความจริง
การปฏิเสธข่าวลือดังกล่าวได้เผยให้เห็นภาพความจริงอันโหดร้ายว่า Neta กำลังต่อสู้กับปัญหาทางการเงินเพียงลำพัง และสถานการณ์ก็เลวร้ายเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้
เส้นทางสู่วิกฤต: หนี้สินรุมเร้าและการระดมทุนที่ล้มเหลว
วิกฤตของ Neta ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน แต่เป็นผลพวงจากปัญหาที่สะสมมาอย่างต่อเนื่อง โดยสัญญาณอันตรายเริ่มปรากฏชัดเจนตั้งแต่ช่วงต้นปี 2568
มรสุมหนี้สินซัพพลายเออร์: ในเดือนมีนาคม 2568 กลุ่มซัพพลายเออร์จำนวนมากได้เดินทางไปยังสำนักงานใหญ่ของ Neta ในเซี่ยงไฮ้ เพื่อเรียกร้องและหาแนวทางการชำระหนี้ที่บริษัทค้างจ่าย แรงกดดันดังกล่าวทำให้ Neta ต้องจัดประชุมซัพพลายเออร์เพื่อหารือเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างหนี้โดยเฉพาะ จนกระทั่งวันที่ 25 มีนาคม Neta ได้ประกาศว่าบรรลุข้อตกลงในการแปลงหนี้เป็นทุน (Debt-to-Equity) กับซัพพลายเออร์หลัก 134 ราย คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 2 พันล้านหยวน (ประมาณ 285 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยมีซัพพลายเออร์รายใหญ่อย่าง CATL และ Gotion High-Tech เข้าร่วมในแผนดังกล่าว แม้จะเป็นข่าวดีในระยะสั้น แต่ก็สะท้อนถึงปัญหาสภาพคล่องที่รุนแรงของบริษัท
ความพยายามระดมทุนครั้งสุดท้ายที่ไม่เป็นผล: Neta พยายามอย่างยิ่งที่จะหาแหล่งเงินทุนใหม่เพื่อพยุงธุรกิจให้เดินต่อไปได้ ในวันที่ 24 มกราคม 2568 บริษัทได้จัดการประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อหารือเกี่ยวกับการระดมทุนรอบ Series E โดยตั้งเป้าหมายที่จะระดมทุนให้ได้ประมาณ 4-4.5 พันล้านหยวน (ประมาณ 570-640 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยคาดว่านักลงทุนหลักจะใส่เงินเข้ามาประมาณ 3 พันล้านหยวน (ประมาณ 430 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ตามแผนงานของบริษัท เงินทุนก้อนใหญ่นี้มีกำหนดจะเข้ามาในเดือนเมษายน ซึ่งจะถูกนำไปใช้ฟื้นฟูสายการผลิตและเป็นทุนหมุนเวียนสำหรับการพัฒนาในอนาคต อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวภายใน Neta ยืนยันว่าจนถึงกลางเดือนพฤษภาคม เงินทุนที่รอคอยก็ยังไม่มาถึง ทำให้แผนการทั้งหมดต้องหยุดชะงักและผลักให้บริษัทเข้าใกล้ภาวะล้มละลายมากขึ้น
ฟางเส้นสุดท้าย: คดีล้มละลายและเสียงสะท้อนจากพนักงาน
เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 ข้อมูลจากศาลได้เปิดเผยว่า บริษัท Shanghai Yuxing Advertising Co., Ltd. ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ้าหนี้ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลประชาชนกลางเมืองเจียซิง ในมณฑลเจ้อเจียง เพื่อขอให้ Hozon New Energy Automobile ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Neta เข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีล้มละลาย นี่คือจุดเปลี่ยนสำคัญที่ส่งสัญญาณว่าสถานการณ์ของ Neta เข้าสู่ขั้นวิกฤตสูงสุด
ภายใต้กฎหมายล้มละลายของจีน เมื่อเจ้าหนี้ยื่นคำร้อง ศาลจะแจ้งให้ลูกหนี้ (Neta) ทราบภายใน 5 วัน และลูกหนี้มีเวลา 7 วันในการยื่นคัดค้าน ซึ่งในกรณีนี้ดูเหมือนว่า Neta จะไม่สามารถหาทางออกได้ทันท่วงที
ยิ่งไปกว่านั้น วิกฤตการณ์ครั้งนี้ยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อพนักงาน เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2568 พนักงานของ Neta Auto ในจีนจำนวนหนึ่งได้รวมตัวกันประท้วง นายฟาง หยุนโจว (Fang Yunzhou) ประธานบริษัท ที่สำนักงานใหญ่แห่งใหม่ในเซี่ยงไฮ้ เพื่อเรียกร้องเงินเดือนที่ค้างจ่าย พนักงานบางส่วนเปิดเผยว่าพวกเขาถูกลดเงินเดือนลงครึ่งหนึ่ง และบริษัทยังไม่ได้จ่ายเงินเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้ตามกฎหมาย พนักงานบางคนได้รับเงินเดือนเพียง 2,690 หยวน (ประมาณ 12,000 บาท) ซึ่งสะท้อนถึงความล้มเหลวในการบริหารจัดการทางการเงินภายในองค์กรอย่างรุนแรง
การล่มสลายของ Neta Auto ถือเป็นอีกหนึ่งบทเรียนราคาแพงในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าของจีนที่เต็มไปด้วยการแข่งขันอันดุเดือด แม้จะเคยเป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพที่น่าจับตามองและมีการขยายตลาดมายังประเทศไทย แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถต้านทานมรสุมทางการเงินที่โหมกระหน่ำได้ การปิดฉากของ Neta จึงเป็นเครื่องเตือนใจให้กับผู้เล่นรายอื่นๆ ในตลาดว่า นอกจากการพัฒนานวัตกรรมแล้ว การบริหารจัดการทางการเงินที่แข็งแกร่งคือหัวใจสำคัญของการอยู่รอดในสมรภูมินี้
#Neta #NetaAuto #รถยนต์ไฟฟ้า #EVจีน #ล้มละลาย #ข่าวเศรษฐกิจ #เศรษฐกิจจีน #โตโยต้า #HozonAuto #วิกฤตEV #อุตสาหกรรมยานยนต์