CHANG-AN ทุ่มหมื่นล้าน ปักธงระยอง ผงาดฮับผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอาเซียน!

CHANG-AN ทุ่มหมื่นล้าน ปักธงระยอง ผงาดฮับผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอาเซียน!

ฉางอาน ออโตโมบิล (CHANG-AN Automobile) ผู้นำด้านเทคโนโลยียานยนต์อัจฉริยะคาร์บอนต่ำจากประเทศจีน สร้างหมุดหมายสำคัญอีกครั้งด้วยการเปิด โรงงานฉางอาน ออโตโมบิล ระยอง (CHANG-AN Automobile Rayong Factory) อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา โรงงานแห่งนี้นับเป็นฐานการผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ครบวงจรแห่งแรกของฉางอานนอกประเทศจีน ด้วยเม็ดเงินลงทุนมหาศาลถึง 10,000 ล้านบาท

การเปิดโรงงานครั้งนี้ไม่เพียงตอกย้ำความมุ่งมั่นของฉางอานในการขยายธุรกิจสู่ระดับโลก โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทย แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณอันแข็งแกร่งในการผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV Hub) อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมกันนี้ ฉางอานยังได้เฉลิมฉลองความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์กับการผลิตรถยนต์คันที่ 28.59 ล้าน ซึ่งเป็นรถยนต์รุ่น DEEPAL S05 ตอกย้ำศักยภาพการเติบโตและกลยุทธ์การขยายธุรกิจระดับโลกที่กำลังเดินหน้าอย่างเต็มกำลัง

โรงงานฉางอาน ออโตโมบิล ระยอง ตั้งอยู่บนพื้นที่ยุทธศาสตร์ขนาด 250 ไร่ ในจังหวัดระยอง ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางการผลิตหลักสำหรับตลาดอาเซียนและตลาดรถยนต์พวงมาลัยขวาทั่วโลก การลงทุนครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในฐานะศูนย์กลางการผลิตของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยภายในโรงงานประกอบด้วยพื้นที่สำหรับการผลิตอย่างครบวงจร ตั้งแต่การเชื่อมประกอบตัวถัง การพ่นสี การประกอบเครื่องยนต์ และการประกอบแบตเตอรี่ ในระยะแรก โรงงานแห่งนี้มีกำลังการผลิตเริ่มต้นที่ 100,000 คันต่อปี และมีเป้าหมายที่จะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 200,000 คันต่อปีในระยะที่สอง

เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยคือหัวใจสำคัญของโรงงานแห่งนี้ มีการนำหุ่นยนต์เข้ามาใช้ในกระบวนการผลิตถึง 39 ตัวในส่วนการเชื่อมประกอบตัวถัง และอีก 29 ตัวในกระบวนการพ่นสี ซึ่งต้องการความแม่นยำและความละเอียดสูง เพื่อให้สีบนตัวรถมีความทนทานยาวนานกว่า 10 ปี และยังช่วยลดการปล่อยมลภาวะได้ถึง 40% นอกจากนี้ ยังมีการใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบอัตโนมัติ 18 ระบบ และแบบกึ่งอัตโนมัติอีก 125 ระบบ ทำให้สามารถผลิตรถยนต์หลากหลายรุ่นที่ใช้ระบบส่งกำลังที่แตกต่างกันได้ในสายการผลิตเดียวกัน ระบบดิจิทัลยังถูกนำมาใช้ในการบริหารจัดการการดำเนินงานผ่านระบบออนไลน์ได้ 100% ช่วยลดระยะเวลาตั้งแต่การสั่งซื้อจนถึงการส่งมอบรถยนต์จากเดิม 21 วัน เหลือเพียง 15 วัน

พิธีเปิดโรงงานได้รับเกียรติจากบุคคลสำคัญทั้งจากภาครัฐและเอกชน รวมถึงผู้บริหารระดับสูงของฉางอาน ออโตโมบิล นำโดย นายจู หัวหรง ประธาน บริษัท ฉางอาน ออโต้โมบิล พร้อมด้วย นายหวัง ฮุย รองประธาน บริษัท ฉางอาน ออโต้โมบิล, นายเคลาส์ ไซซิโอรา รองประธาน บริษัท ฉางอาน ออโต้โมบิล, นายเติ้ง เฉิงหาว รองประธาน บริษัท ฉางอาน ออโต้โมบิล และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DEEPAL และ นายเซิน ซิงหัว กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฉางอาน ออโต้ เซาท์อีส เอเชีย จำกัด และ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฉางอาน ออโต้ เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด

ฝ่ายไทยได้รับเกียรติจาก นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม, นายเจียง เว่ย อัครราชทูตฝ่ายเศรษฐกิจและพาณิชย์ สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย, นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และ นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง พร้อมด้วยพันธมิตรทางธุรกิจและสื่อมวลชนจำนวนมากเข้าร่วมงาน การรวมตัวของบุคคลสำคัญเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของโรงงานแห่งนี้ที่มีต่ออุตสาหกรรมยานยนต์และความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยและจีน

นายจู หัวหรง ประธาน บริษัท CHANG-AN Automobile กล่าวถึงความสำคัญของการเปิดโรงงานในครั้งนี้ว่า “การเปิดโรงงานแห่งนี้เป็นก้าวสำคัญสำหรับ CHANG-AN ที่ยกระดับจากการส่งออกรถยนต์สู่การสร้างระบบนิเวศในประเทศไทย ควบคู่ไปกับการเดินหน้า 3 แผนธุรกิจหลัก ได้แก่ Green CHANG-AN, Smart CHANG-AN และ Global CHANG-AN โดยจะเริ่มเดินสายการผลิตที่โรงงานในจังหวัดระยอง ตอกย้ำความมุ่งมั่นในระยะยาวต่อประเทศไทยและปรัชญาที่มุ่งพัฒนาการดำเนินงานในท้องถิ่นให้สร้างประโยชน์ต่อชุมชน”

CHANG-AN

“เราออกแบบโรงงานแห่งนี้โดยให้โดดเด่นด้านความยั่งยืนและนวัตกรรม ใช้กระบวนการผลิตที่มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด (Lean Manufacturing Processes) ระบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยีล้ำสมัย สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ CHANG-AN ต่ออนาคตที่ยั่งยืนมากขึ้น รวมทั้งส่งเสริมเป้าหมายของเราที่ต้องการให้ประเทศไทยเป็นประตูสู่ภูมิภาคและตลาดรถพวงมาลัยขวาที่สำคัญ ครอบคลุมทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์”

“เราจะยังคงยึดมั่นในกลยุทธ์ ‘In Thailand, For Thailand’ พร้อมทั้งส่งมอบเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ให้ความสำคัญกับ AI, ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ และยานพาหนะไฟฟ้าที่สามารถบินขึ้นและลงจอดในแนวดิ่งได้ (eVTOL)”

ด้าน นายเซิน ซิงหัว กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฉางอาน ออโต้ เซาท์อีส เอเชีย จำกัด และ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฉางอาน ออโต้ เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวเสริมว่า “เราให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับตลาดประเทศไทย และรักษาความเป็นเลิศในการผลิตเพื่อให้เกิดประโยชน์โดยตรงต่อผู้บริโภคทั้งในไทยและทั่วภูมิภาค โรงงานที่จังหวัดระยองจึงเป็นตัวแทนของความสำเร็จสำหรับ CHANG-AN หลายด้าน ทั้งการเป็นโรงงานผลิตยานยนต์พลังงานใหม่แห่งแรก และโรงงานผลิตแบบครบวงจรแห่งแรก”

“โดยมีกระบวนการตรวจสอบคุณภาพกว่า 90% เป็นระบบอัตโนมัติ ตอกย้ำความเป็นผู้นำของเราในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ทั้งยังช่วยให้เราสามารถขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ นำเสนอโซลูชันการเดินทางอันชาญฉลาดและรักษ์โลกได้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญ การเปิดโรงงานแห่งนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์ของรัฐบาลไทยที่ต้องการให้ประเทศเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ของภูมิภาค เราภาคภูมิใจที่จะได้ขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านไปสู่โซลูชันด้านการคมนาคมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น พร้อมทั้งร่วมพัฒนาเศรษฐกิจและเป้าหมายด้านความยั่งยืนให้กับประเทศเพื่อสร้างคุณค่าให้กับลูกค้าและชาวไทยทุกคน”

นอกจากการลงทุนด้านการผลิตแล้ว ฉางอานยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โรงงานแห่งนี้ได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงความยั่งยืนเป็นหลัก มีการใช้อุปกรณ์ประสิทธิภาพสูงและกระบวนการทำงานที่ทันสมัยและปล่อยคาร์บอนต่ำ บริษัทมีแผนที่จะติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 14 เมกะวัตต์ ซึ่งจะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ถึง 45% ของพลังงานไฟฟ้าทั้งหมดที่ใช้ในโรงงาน ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากนี้ ยังมีการนำส่วนประกอบที่ส่งเสริมความยั่งยืนอื่นๆ มาใช้ เช่น ระบบระบายอากาศหมุนเวียน ระแนงระบายความร้อน การใช้แสงธรรมชาติ และระบบรีไซเคิลน้ำฝน ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดต้นทุนด้านพลังงานลงได้ถึง 20% การเปิดโรงงานแห่งนี้ยังจะสร้างโอกาสในการจ้างงานมากกว่า 30,000 ตำแหน่ง ตลอดห่วงโซ่คุณค่า ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่นอีกด้วย

ภายในงานเปิดตัวโรงงาน ฉางอานยังได้จัดแสดงนวัตกรรมยานยนต์ที่น่าสนใจมากมาย เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในการพลิกโฉมวงการยานยนต์ไทย ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีแบตเตอรี่ CTV, ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าแบบ Super Integrated E-Drive และเทคโนโลยี Range Extender รวมถึงการจัดแสดงทัพรถยนต์หลากหลายรุ่นจากแบรนด์ในเครือ ทั้ง DEEPAL (รุ่น S05, E07, S07, L07 และ G318), แบรนด์ AVATR (รุ่น 11, 12 และ 07) และที่สร้างความฮือฮาเป็นพิเศษคือ รถยนต์บินได้ด้วยระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ EHang ซึ่งเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนและแขกผู้มีเกียรติได้สัมผัสกับโซลูชันการเดินทางแห่งอนาคตที่ฉางอานกำลังนำเสนอสู่ตลาดประเทศไทย

สำหรับแผนงานในอนาคต ฉางอานตั้งเป้าที่จะเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่อีก 12 รุ่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายในระยะเวลา 3 ปี โดยทั้งหมดจะเป็นยานยนต์พลังงานใหม่ เพื่อขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมความต้องการของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะสร้างคลังอะไหล่สำหรับตลาดรถยนต์พวงมาลัยขวา ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จจะสามารถเก็บชิ้นส่วนได้ถึง 98% ของจำนวนอะไหล่ทั้งหมด และตั้งเป้าในการจัดส่งอะไหล่ภายใน 24 ชั่วโมง พร้อมกันนี้ จะมีการอัปเกรดแพลตฟอร์มดิจิทัลในประเทศไทยที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI เพื่อมอบบริการแบบเรียลไทม์ผ่านระบบอัจฉริยะ ครอบคลุมทั้งการควบคุมยานพาหนะ การบำรุงรักษา การตรวจสอบแบตเตอรี่ และการเช็คสภาพรถจากระยะไกล

ผลการดำเนินงานของฉางอานทั่วโลกยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายรวมถึง 2.68 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 5.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และในจำนวนนี้เป็นยอดขายรถยนต์พลังงานใหม่ถึง 735,000 คัน ซึ่งเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึง 52.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ฉางอานตั้งเป้าหมายยอดขายทั่วโลกไว้ที่ 5 ล้านคันต่อปีภายในปี 2573 โดยในจำนวนนี้จะเป็นยอดขายรถยนต์พลังงานใหม่ถึง 3 ล้านคัน การเปิดโรงงานที่จังหวัดระยองจึงไม่ได้เป็นเพียงการตอกย้ำความมุ่งมั่นของฉางอานที่มีต่อประเทศไทยและตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้น แต่ยังเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัทในภูมิภาคนี้ ตลอดจนร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์และขับเคลื่อนเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง

ทั้งนี้ CHANG-AN เป็นบริษัทเทคโนโลยียานยนต์อัจฉริยะคาร์บอนต่ำ ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ยานยนต์หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถกระบะ และรถเพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็ก บริษัทขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและการยกระดับอุตสาหกรรม โดยมุ่งมั่นพัฒนายนตรกรรมที่ยั่งยืนเพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมระดับโลก

โดยในเดือนเมษายน 2568 ที่ผ่านมา CHANG-AN ได้เผยแพร่รายงาน ESG ประจำปี 2567 ซึ่งนับเป็นรายงานฉบับที่ 17 นับตั้งแต่ปี 2551 บริษัทได้ให้การสนับสนุนโครงการต่างๆ เช่น การบรรเทาภัยพิบัติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โครงการ Luban Workshop ในประเทศเปรู และการควบคุมการแปรสภาพเป็นทะเลทรายในประเทศซาอุดีอาระเบีย ด้วยความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนดังกล่าว CHANG-AN จึงได้รับการจัดอันดับให้อยู่ใน “100 อันดับแรกของบริษัทจดทะเบียนด้าน ESG ในประเทศจีน” เป็นครั้งแรก

#CHANGAN #ฉางอาน #โรงงานฉางอานระยอง #EVHub #รถยนต์ไฟฟ้า #ยานยนต์อาเซียน #ลงทุนไทย #Deepal #Avatr #เทคโนโลยียานยนต์ #รถยนต์บินได้ #ความยั่งยืน #เศรษฐกิจไทย