SAIC Motor เปิดวิสัยทัศน์ยานยนต์อนาคต: “เข้าใจรถ เข้าใจคุณยิ่งกว่า”

เซี่ยงไฮ้, สาธารณรัฐประชาชนจีน – ท่ามกลางแสงสีริมฝั่งแม่น้ำหวงผู่ ณ โรงละครศิลปะสำหรับเด็ก SAIC-Roewe นครเซี่ยงไฮ้ บริษัท SAIC Motor Corporation Limited (SAIC Motor) ยักษ์ใหญ่แห่งอุตสาหกรรมยานยนต์จีน ได้จัดงาน “SAIC Night 2025” ภายใต้แนวคิดหลัก “懂车更懂你” หรือ “เข้าใจรถ เข้าใจคุณยิ่งกว่า” เผยวิสัยทัศน์และทิศทางการพัฒนายานยนต์แห่งอนาคตที่มุ่งเน้นการเข้าถึงเทคโนโลยีอย่างเท่าเทียม (Technology Equalization) การตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคล (Personalization) และการสร้างสรรค์ประสบการณ์การเดินทางที่เหนือกว่า โดยมีผู้ใช้งานกว่า 94 ล้านคนในกว่า 100 ประเทศทั่วโลกเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ

งานในครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการประกาศทิศทางในอนาคต แต่ยังเป็นการย้อนรำลึกถึงเส้นทางอันยาวนานกว่า 70 ปีของอุตสาหกรรมยานยนต์เซี่ยงไฮ้ นับตั้งแต่การก่อตั้งบริษัท Shanghai Internal Combustion Engine Parts Manufacturing Company สู่การผลิตรถยนต์แบรนด์ Phoenix และ Shanghai จนถึงยุคแห่งการปฏิรูปและเปิดประเทศเมื่อ 40 ปีก่อน ที่ SAIC ได้บุกเบิกความร่วมมือกับต่างชาติ สร้างระบบการผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนที่ทันสมัย และเมื่อ 10 ปีที่แล้ว SAIC คือผู้ริเริ่มแนวคิด “New Four Modernizations” (การใช้พลังงานไฟฟ้า, การเชื่อมต่ออัจฉริยะ, การแบ่งปันใช้งาน และความเป็นสากล) ผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์จีนให้ก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด พร้อมทั้งเป็นผู้บุกเบิกการสร้างสรรค์ “รถยนต์อินเทอร์เน็ต”

ยุคใหม่แห่ง “ความเท่าเทียมทางเทคโนโลยี” และ “การตอบสนองเฉพาะบุคคล”

SAIC Motor มองว่า “ความเท่าเทียมทางเทคโนโลยี” (Technology Equalization) หรือการทำให้เทคโนโลยีล้ำสมัยสามารถเข้าถึงได้ในวงกว้าง กำลังกลายเป็นแนวโน้มสำคัญที่จะเข้ามาทลายการผูกขาด กำหนดกติกาใหม่ และเป็นพลังขับเคลื่อนหลักในการยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ การพัฒนาของระบบขับขี่อัจฉริยะระดับ L2++ ที่สมบูรณ์ขึ้น, L3 ที่ใกล้จะเป็นจริง และ L4 ที่กำลังจะตามมาอย่างรวดเร็ว กำลังนำเราไปสู่ยุคทองของ “การเดินทางร่วม” (Shared Mobility)

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “Robotaxi” หรือแท็กซี่ไร้คนขับ ซึ่ง SAIC คาดการณ์ว่าจะสามารถผลิตและให้บริการในเชิงพาณิชย์ได้ในวงกว้างภายใน 5 ปีข้างหน้า ทำให้การเดินทางกลายเป็นบริการ (Mobility as a Service) ที่ทุกคนเข้าถึงได้ในราคาที่เป็นธรรม โดยไม่ต้องกังวลเรื่องที่จอดรถหรือการบำรุงรักษา

ควบคู่ไปกับความเท่าเทียมทางเทคโนโลยี SAIC ยังเล็งเห็นถึงการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุค “การตอบสนองเฉพาะบุคคล” (Personalization) และ “บริการการเดินทาง” (Mobility Services) อย่างเต็มรูปแบบ หลังจากยุค “New Four Modernizations” โดยแบ่งการพัฒนาออกเป็น 2 ระยะ:

1. ระยะแรก: การปรับแต่งซอฟต์แวร์เฉพาะบุคคล (Software Personalization) รถยนต์จะกลายเป็น “พื้นที่ที่สาม” (Third Space) ของผู้คน ด้วยการผสาน AI เข้ากับระบบต่างๆ อย่างลึกซึ้ง ผู้ใช้สามารถปรับแต่งซอฟต์แวร์ ระบบขับขี่อัจฉริยะ และแอปพลิเคชันต่างๆ ได้ตามความต้องการเฉพาะตัว คล้ายกับการใช้งานแอปบนสมาร์ทโฟน
2. ระยะที่สอง: การปรับแต่งฮาร์ดแวร์เฉพาะบุคคล (Hardware Personalization) รถยนต์จะกลายเป็น “เพื่อนคู่ใจ” ในชีวิตประจำวัน ด้วยสถาปัตยกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (E/E Architecture) ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ฮาร์ดแวร์ของรถยนต์มีความยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนและเลือกติดตั้งเพิ่มเติมได้อย่างหลากหลายมากขึ้น

SAIC ย้ำว่า การสร้างความเท่าเทียมที่แท้จริงไม่ใช่แค่การใส่ฟังก์ชันมาให้เยอะๆ แต่คือการปรับโครงสร้างคุณค่าของการเดินทางโดยมี “คน-รถ-ชีวิต” เป็นศูนย์กลาง บริษัทฯ จึงมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการโดยยึด 4 แกนหลัก ได้แก่ ความปลอดภัยและความสบายใจ (Safety & Peace of Mind), ความอัจฉริยะและความสนุกสนาน (Rich Intelligence & Fun), ความเข้าใจผู้ใช้ยิ่งกว่า (Understand You Better), และความสวยงามขั้นสุด (Ultimate Aesthetics) เพื่อสร้างระบบนิเวศของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่สมบูรณ์ที่สุด และทำให้รถยนต์ SAIC ทุกคันเป็นเพื่อนร่วมทางที่เข้าใจผู้ใช้มากที่สุด ภายใต้วิสัยทัศน์ “平权驱动进阶，共创美好出行” (การเข้าถึงเทคโนโลยีอย่างเท่าเทียมขับเคลื่อนการยกระดับ ร่วมสร้างสรรค์การเดินทางที่สวยงาม)

ความปลอดภัย: รากฐานสำคัญของเทคโนโลยีอัจฉริยะ

SAIC ตระหนักดีว่า ความปลอดภัยคือพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของการพัฒนารถยนต์อัจฉริยะ บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะสร้างมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงสุด ผ่านการใช้จุดแข็งด้านเทคโนโลยีแชสซีอัจฉริยะ (Intelligent Chassis) และระบบความปลอดภัยทั้งเชิงป้องกัน (Active Safety) และเชิงปกป้อง (Passive Safety)

• โครงสร้างแข็งแกร่งดุจป้อมปราการ: ใช้มาตรฐานความปลอดภัยระดับโลกที่เข้มงวดที่สุด ทำให้ตัวรถมีความแข็งแกร่ง ทนทานต่อการชน (不怕撞 – ไม่กลัวชน)
• เทคโนโลยีป้องกันการชน: พัฒนาระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) และระบบควบคุมการเคลื่อนที่ของยานพาหนะ (VMC) ที่เชื่อถือได้และควบคุมได้เอง เพื่อสร้างระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันที่ไม่ก่อให้เกิดการชน (不会撞 – ไม่ชน) ยกระดับความปลอดภัยจาก 99% สู่ 99.999%
• ระบบสำรองรับมือเหตุสุดวิสัย: สำหรับความเสี่ยงเพียง 0.001% ที่เหลือ SAIC ได้พัฒนาระบบความปลอดภัยแบบบูรณาการทั้งเชิงป้องกันและปกป้อง ที่ทำงานเชื่อมต่อกันทั้งระบบ (Full-link, Fully integrated, Fully open) เพื่อให้มั่นใจว่าแม้เกิดการชนขึ้น ก็ยังสามารถปกป้องผู้โดยสารได้อย่างดีที่สุด (万一撞了，也不怕 – ถึงชนก็ไม่กลัว)
• ความปลอดภัยแบบองค์รวม: ผสานรวมมาตรฐานความปลอดภัย 5 ดาวพื้นฐานเข้ากับระบบอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ครอบคลุมถึงความปลอดภัยเชิงฟังก์ชัน (Functional Safety), ความปลอดภัยของข้อมูล (Information Security) และความปลอดภัยของดาต้า (Data Security)

ขับขี่อัจฉริยะ: สนุก ง่าย และเป็นตัวคุณ

บนพื้นฐานของความปลอดภัยที่มั่นคง SAIC มุ่งมั่นทำให้การขับขี่อัจฉริยะเป็นเรื่องสนุก ง่าย และสะท้อนความเป็นตัวตนของผู้ใช้ บริษัทฯ สนับสนุนความหลากหลายของเทคโนโลยีขับขี่อัจฉริยะ (Diverse Tech Routes) เพราะเชื่อว่าการมีทางเลือกที่หลากหลายจะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อผู้บริโภคและอุตสาหกรรมโดยรวม

SAIC ได้ร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำในวงการขับขี่อัจฉริยะของจีน หรือที่เรียกว่า “จตุรเทพ” (四大高手) ได้แก่ Momenta, Horizon Robotics, Huawei และ DJI เพื่อสร้างสถาปัตยกรรมแบบ Full-Stack ที่รองรับเทคโนโลยีจากหลากหลายค่าย ทำให้ SAIC สามารถนำเสนอโซลูชันการขับขี่อัจฉริยะที่ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างครอบคลุม นอกจากนี้ ยังผสานระบบขับขี่อัจฉริยะเข้ากับห้องโดยสารอัจฉริยะ (AI Smart Cabin) อย่างลึกซึ้ง ทำให้ระบบสามารถเรียนรู้นิสัยการขับขี่ สภาพแวดล้อม และโต้ตอบผ่านเสียง เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่เฉพาะบุคคลที่ใช้งานง่าย เข้าใจง่าย และน่าประทับใจ (“ดูปุ๊บเป็นปั๊บ พูดปุ๊บเข้าใจปั๊บ ขับปุ๊บรักปั๊บ”)

รถยนต์อัจฉริยะแห่งอนาคต: เข้าใจใจคุณยิ่งกว่าเดิม

ในยุคดิจิทัลที่สมาร์ทโฟนกลายเป็นสิ่งที่เข้าใจเรามากที่สุด SAIC ตั้งเป้าที่จะสร้าง “รถยนต์อัจฉริยะที่ปรับแต่งได้ตามใจคุณ” โดยมีสมาร์ทโฟนเป็นศูนย์กลาง เปรียบเสมือน “สมาร์ทโฟนเคลื่อนที่ขนาดใหญ่” ที่คุณสามารถเข้าไปนั่งข้างในได้ทันทีที่ขึ้นรถ ทุกฟังก์ชันของสมาร์ทโฟนจะทำงานบนรถได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมทั้งใช้ประโยชน์จากเซ็นเซอร์และอุปกรณ์ต่างๆ ในรถ เพื่อมอบประสบการณ์อัจฉริยะที่หลากหลายและสมจริงยิ่งขึ้น

• รองรับทุกระบบนิเวศ: “Galaxy Full Stack Cockpit 3.0” ที่ SAIC พัฒนาขึ้นเอง สามารถเชื่อมต่อกับระบบปฏิบัติการหลักทั้ง HarmonyOS, Android และ iOS ครอบคลุมสมาร์ทโฟนในตลาดกว่า 90%
• เชื่อมต่อทุกสถานการณ์: ทำงานร่วมกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ เพื่อขยายการเชื่อมต่อสู่อุปกรณ์อื่นๆ เช่น นาฬิกา หูฟัง แว่นตา ได้อย่างราบรื่น ไร้รอยต่อ และไม่ต้องเรียนรู้ใหม่ ควบคุมรถได้ 100%
• ประสิทธิภาพสูงสุด: ระบบรู้จำเสียงแม่นยำเกือบ 100% ความหน่วงในการควบคุมน้อยกว่า 150 มิลลิวินาที ทดสอบวิ่งเกือบหมื่นกิโลเมตรโดยไม่มีการค้าง (Zero crashes) ระบบสตาร์ทและตอบสนองด้วยเสียงรวดเร็วทันใจ อยู่ในระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม
• ผสานพลัง AI: นำ AI Large Models มาใช้งาน ร่วมมือกับบริษัท AI ชั้นนำ สร้าง “AI Car” ที่ไม่เพียงแค่วางแผนเส้นทางหรือตอบคำถามพื้นฐาน แต่ยังสามารถปรับแต่งห้องโดยสารตามความชอบ ตัดต่อวิดีโอการเดินทาง (Road Trip Log) หรือวางแผนเที่ยวตามคำสั่งเสียง เป็น “ผู้ช่วย AI ส่วนตัว” ของคุณได้อย่างแท้จริง AI นี้ยังมีความสามารถในการเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง (Self-learning, Self-evolving) เพื่อมอบการดูแลเชิงรุกตามพฤติกรรม อุณหภูมิที่ชอบ บรรยากาศเพลง และทำหน้าที่เป็นเพื่อนร่วมทางที่เข้าใจอารมณ์ความรู้สึกได้

สุนทรียภาพคือความถูกต้อง: ดีไซน์ที่หลากหลาย ตอบโจทย์ทุกความงาม

นอกเหนือจากการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อการปรับแต่งเฉพาะบุคคลแล้ว SAIC ยังให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีรูปลักษณ์โดดเด่นและหลากหลาย ผ่านการพัฒนาฮาร์ดแวร์และซัพพลายเชนทั้งหมด เพราะเชื่อว่า “颜值即正义” (ความสวยงามคือความถูกต้อง) บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะผสานสุนทรียศาสตร์จากทั่วโลกเข้ากับความต้องการที่หลากหลาย เพื่อสร้างสรรค์รถยนต์ที่สะท้อนตัวตนและตอบสนองความงามในแบบของแต่ละคน (“各美其美、美美与共” – งามในแบบของตน แบ่งปันความงามร่วมกัน)

SAIC เตรียมเผยโฉมรถยนต์รุ่นใหม่กว่า 10 รุ่นภายในปีหน้า ภายใต้ภาษาการออกแบบใหม่ที่นำโดย Mr. Jozef Kabaň นักออกแบบรถยนต์ชื่อดังระดับโลก ซึ่งจะเปิดตัวผลงานใหม่ 2 ชิ้นในงาน Shanghai Auto Show วันที่ 23 เมษายนนี้ (และจะมีการเปิดตัวรถยนต์จากแบรนด์ในเครืออย่าง Ji Motors ในวันที่ 18 เมษายน) กลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่จะครอบคลุมตั้งแต่ SUV ขนาดใหญ่สำหรับครอบครัว, รถยนต์ออฟโรด, รถสปอร์ตสมรรถนะสูง ไปจนถึงรถกระบะ ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์และความต้องการเฉพาะบุคคล

กลยุทธ์ “หมัดสามแบบ”: ผสานพลังภายในและภายนอก พิชิตตลาดโลก

ในการแข่งขันที่ดุเดือดของอุตสาหกรรมยานยนต์ปัจจุบัน SAIC ไม่ได้พึ่งพาเพียงเทคโนโลยี แต่ยังใช้กลยุทธ์ที่ผสมผสานทั้งการเสริมสร้างความแข็งแกร่งจากภายในและการร่วมมือกับภายนอก หรือที่เรียกว่า “หมัดสามแบบ” (内家拳、外家拳、组合拳 – หมัดภายใน, หมัดภายนอก, หมัดผสม) เพื่อสร้างความได้เปรียบและขยายอาณาเขตในตลาด

1. “หมัดภายใน” (Internal Boxing): รวมศูนย์พลังและทรัพยากร โดยการรวมธุรกิจหลักของแบรนด์ในเครือ (SAIC Passenger Vehicle, SAIC International, สถาบันวิจัยและพัฒนา, Z-One Tech) เข้าด้วยกัน เพื่อให้มีเป้าหมายที่ชัดเจนและประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมทั้งจัดตั้ง SAIC Commercial Vehicle โดยมี Maxus เป็นแกนหลัก เพื่อพัฒนารถยนต์เพื่อการพาณิชย์ด้วยเทคโนโลยีที่ใช้ร่วมกันและกลยุทธ์ระดับโลก
   • นวัตกรรมเทคโนโลยี: รวมศูนย์การวิจัยและผลิตแชสซีทั้งหมดเพื่อพัฒนาเทคโนโลยี Steer-by-wire ขั้นสูง / เตรียมเปิดตัว VMC (Vehicle Motion Control) เจเนอเรชัน 2 ภายในปี 2027 / สถาปัตยกรรมอิเล็กทรอนิกส์ Galaxy Full Stack 4.0 ที่รองรับ L3 และมีความสามารถในการเรียนรู้เอง จะเปิดตัวภายในปีนี้
   • สร้างระบบนิเวศ: แพลตฟอร์ม Robotaxi “Xiangdao Chuxing” ให้บริการครอบคลุมเมืองหลัก วิ่งไปแล้วกว่า 1.4 ล้านกม. ให้บริการกว่า 260,000 เที่ยว / จัดตั้งกองทุนมูลค่าหลายพันล้านหยวนเพื่อสนับสนุนการผลิตชิปในประเทศ ทำให้มีอัตราการใช้ชิปที่ผลิตในประเทศสูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม ณ สิ้นปี 2024
2. “หมัดภายนอก” (External Boxing): เรียนรู้และร่วมมือกับพันธมิตร ทั้งในและนอกอุตสาหกรรม
   • กระชับความร่วมมือกับ Joint Ventures: สานต่อความร่วมมือกับพันธมิตรเดิม เช่น Volkswagen ต่อยอดฐานลูกค้าเดิม พร้อมยกระดับสู่ยุค 2.0 ที่มีการร่วมสร้างสรรค์เทคโนโลยี โดยพันธมิตรระดับโลกจะนำสถาปัตยกรรมอิเล็กทรอนิกส์และระบบขับขี่อัจฉริยะล่าสุดของ SAIC ไปใช้
   • ขยายความร่วมมือกับ Tech Leaders: จับมือกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ เช่น Huawei, Horizon Robotics, CATL, Momenta, OPPO, Volcengine เพื่อผสานจุดแข็งและสร้างสรรค์รถยนต์รุ่นใหม่ที่มีประสบการณ์ที่เหนือกว่า
3. “หมัดผสม” (Combination Boxing): ประยุกต์ใช้และสร้างความได้เปรียบด้วยกลยุทธ์ “GloCal” (Global + Local)
   • รุกตลาดโลก: ใช้ความได้เปรียบจากการเป็นผู้บุกเบิก ขยายธุรกิจในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ส่งออก “การผลิตอัจฉริยะของจีน” (China Smart Manufacturing)
   • ปรับให้เข้ากับท้องถิ่น: แบ่งตลาดโลกออกเป็นภูมิภาคต่างๆ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการ วัฒนธรรม และกฎหมายของแต่ละท้องถิ่นอย่างแท้จริง (“คิดแบบสากล ทำแบบท้องถิ่น”)
   • เป้าหมายสูงสุด: ทำให้ “รถยนต์ SAIC จากจีน” โลดแล่นไปทั่วทุกมุมโลก และผลักดันให้มาตรฐานรถยนต์ของจีนกลายเป็นมาตรฐานระดับโลก

ตอบสนองความต้องการผู้ใช้: ขับเคลื่อนการยกระดับอย่างไม่หยุดยั้ง

SAIC เชื่อว่า ความไม่พอใจในสิ่งเดิมและความปรารถนาที่จะมีชีวิตการเดินทางที่ดีขึ้นของผู้ใช้ คือพลังขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้บริษัทฯ พัฒนาอย่างต่อเนื่อง (不满是向上的车轮 – ความไม่พอใจคือล้อที่ขับเคลื่อนไปข้างหน้า)

• ผู้ใช้ต้องการ “ประหยัด”: SAIC พัฒนาเครื่องยนต์ไฮบริด DMH ที่มีประสิทธิภาพเชิงความร้อนสูงถึง 46.3% (สถิติใหม่) ทำให้รถวิ่งได้ไกลกว่า 2,200 กม. ด้วยอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยเพียง 2.49 ลิตร/100 กม. (สถิติใหม่) และกำลังพัฒนาระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าแบบบูรณาการสูง ที่เบากว่า แรงกว่า และประหยัดพลังงานกว่าเดิมในขนาดเท่าเดิม
• ผู้ใช้ต้องการ “ปลอดภัย”: SAIC สร้างระบบความปลอดภัยอัจฉริยะแบบบูรณาการ (Active/Passive Integrated) รายแรกของอุตสาหกรรม พร้อมทั้งกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยแบตเตอรี่ที่สูงกว่ามาตรฐานแห่งชาติ 30% และทดสอบในสภาวะสุดขั้วนานกว่า 6 เท่า ทำให้แบตเตอรี่ “Rubik’s Cube” กว่า 500,000 ชุดที่ส่งมอบไป มีสถิติ “ไม่เกิดการลุกไหม้เอง ไม่เกิดความร้อนสูงจนควบคุมไม่ได้” (Zero Self-ignition, Zero Thermal Runaway) เป็นรายเดียวในอุตสาหกรรม
• ผู้ใช้ต้องการ “ใช้ง่าย”: SAIC นำเสนอ “Smart Family Bucket” หรือชุดรวมเทคโนโลยีอัจฉริยะครบวงจร ทั้งระบบขับขี่ (L2+ ถึง L4), ระบบห้องโดยสาร (เชื่อมต่อทุกค่ายมือถือ), และระบบแชสซีอัจฉริยะ (Steer-by-wire, การกลับรถในที่แคบ)
• ผู้ใช้ต้องการ “มีส่วนร่วม”: SAIC กำลังสร้างแพลตฟอร์มสำรวจความคิดเห็นผู้ใช้ออนไลน์ใหม่ เพื่อรับฟังเสียงของผู้ใช้และนำความต้องการเหล่านั้นมาเป็นส่วนหนึ่งในการกำหนดคุณสมบัติผลิตภัณฑ์ตั้งแต่เริ่มต้น ทำให้รถทุกคันมี “ยีนของผู้ใช้” (User Gene) อยู่ในตัว

จากจุดเริ่มต้นที่โรงงาน Jiangnan Manufacturing Bureau สู่ยุคของเทอร์มินัลอัจฉริยะเคลื่อนที่ SAIC Motor ยังคงสืบสานตำนานแห่งเซี่ยงไฮ้ต่อไป ด้วยความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง เปิดใจรับความร่วมมือ และมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ด้วยจิตวิญญาณของช่างฝีมือ เพื่อผลักดัน “การผลิตอัจฉริยะแห่งเซี่ยงไฮ้ แบรนด์จีน คุณภาพระดับโลก” ให้ก้าวหน้าและเหนือกว่าอยู่เสมอ

#SAICMotor #เซี่ยงไฮ้ออโต้ #รถยนต์ไฟฟ้า #EV #รถยนต์อัจฉริยะ #เทคโนโลยียานยนต์ #อุตสาหกรรมยานยนต์ #ขับขี่อัตโนมัติ #AI #Robotaxi #จีน #เศรษฐกิจ #ข่าวรถยนต์ #ความเท่าเทียมทางเทคโนโลยี #Personalization #ยานยนต์แห่งอนาคต