MINI Electric Cooper SE 2025 รถยนต์ไฟฟ้า 100% เปิดให้จองออนไลน์ 1-31 ก.ค.นี้ รับรถปลายเดือนก.ค.นี้

MINI Electric Cooper SE 2025 รถยนต์ไฟฟ้า 100% เปิดให้จองออนไลน์ 1-31 ก.ค.นี้ รับรถปลายเดือนก.ค.นี้

มินิ ประเทศไทย เปิดให้ Pre-order MINI Electric Cooper SE รถยนต์ไฟฟ้า (EV) โมเดล 2025 รุ่นนี้วิ่งไกล 402 กม. (ตามมาตรฐาน WLTP) ผ่านช่องทางออนไลน์ ตั้งแต่ 1-31 กรกฎาคมศกนี้ แถมแพ็กเกจ MINI Connected Package ฟรี 1 ปี มูลค่า 4,990 บาท พร้อมรับรถได้ปลายเดือนนี้

มินิ ประเทศไทย เปิดให้จอง (Pre-order) MINI Electric Cooper SE 2025 รถยนต์ไฟฟ้า (EV) 100% อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1-31 กรกฎาคม 2567 ผ่านช่องทางออนไลน์ที่ minionlinesales.com มาพร้อมกับแพ็กเกจ MINI Connected Package ฟรี 1 ปี มูลค่า 4,990 บาท โดยจะรับรถได้ตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2567 โดยจะมีการเปิดตัว ประกาศราคาขายในวันที่ 19 กรกฎาคมศกนี้

MINI Cooper SE 2025 เป็นรถยนต์ไฟฟ้า (EV) 100% ใส่สเปกมอเตอร์ไฟฟ้า 218 แรงม้า แรงบดสูงสุด 330 นิวตัน-เมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ใน 6.7 วินาที

ทาง MINI ปรับพลังของแบตเตอรี่ให้มีระยะทางขับขี่เพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิม ด้วยขนาดความจุ 54.2 kWh สามารถขับขี่ระยะทางสูงสุด 402 กิโลเมตรต่อการชาร์จแต่ละครั้ง (ตามมาตรฐาน WLTP) รองรับการชาร์จแบบด่วนจาก 10-80% ได้ในเวลาประมาณ 30 นาที

ดีไซน์ภายนอก Cooper SE
         มาดูดีไซน์ภายนอกของ MINI Cooper SE กัน ยังคงสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Cooper SE ในเรื่องความกะทัดรัดพร้อมดีไซน์แบบมินิมอล ติดตั้งไฟหน้า LED สามารถปรับลูกเล่นได้ 3 โหมด โดยยังคงดีไซน์ตามหลักอากาศพลศาสตร์ต่างๆ อาทิ ล้ออัลลอย ใต้ท้องรถแบบเปิด เป็นต้น โดยยังคงรักษาเอกลักษณ์การขับขี่ Electrified Go-Kart

 

ดีไซน์ภายใน Cooper SE
         ภายในห้องโดยสาร Cooper SE ถูกออกแบบลดทอนจำนวนชิ้นส่วนเพื่อความสวยงาม สะท้อนถึงเอกลักษณ์ดั้งเดิมสไตล์ MINI เอาไว้ทุกประการ ติดตั้งแผงหน้าปัดดีไซน์คลาสสิก ที่มีอินเตอร์เฟสเรียบง่าย พวงมาลัยสวิตช์แบบ Toggle และหน้าจอ OLED ความละเอียดสูงทรงกลมเต็มรูปแบบ ทำหน้าที่เป็นทั้งจอแสดงข้อมูลการขับขี่ จอระบบอินโฟเทนเมนท์ และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ต่าง ๆ เรียกว่า เป็นทุกสิ่งอย่างในที่เดียวกัน ซึ่งมองว่า เป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรม

ลูกเล่นที่น่าสนใจ
         MINI Cooper SE 2025 ติดตั้งระบบ MINI Experience Modes ที่ทำการปรับได้ถึง  7 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการปรับแต่งการแสดงผล แสงไฟภายในห้องโดยสาร เสียง รวมถึงการปรับการตอบสนองของคันเร่งในการขับขี่ ระดับการเรียกคืนพลังงานของระบบชาร์จไฟกลับขณะเบรกหรือถอนคันเร่ง ฯลฯ และยังเป็นครั้งแรกที่ถูกติดตั้ง MINI Connected Package ที่อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ต่างๆ อย่าง

MINI Intelligent Personal Assistant เพียงแต่ทัก Hey MINI ก็จะพบกับผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะ Spike แบบ Exclusive บนหน้าจอทรงกลม Round OLED Display ทำให้พูดคำสั่งที่ผู้ขับขี่ต้องการได้เลย

MINI Navigation ระบบนำทางรูปแบบ 3 มิติ มาพร้อมเทคโนโลยีที่อัปเดตข้อมูลที่ทาง MINI คุยเอาไว้ว่า จะทำให้การเดินทางสะดวกสบายมากขึ้น

MINI Third-Party App Store สามารถเลือกโลกดิจิทัลที่ต้องการได้เอง ซึ่งทาง MINI บอกว่า ไม่ต่างจาก Device ชิ้นโปรด เพราะสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน เช่น ฟังเพลง, เกม, ข่าวสาร หรือสตรีมมิ่งต่างๆ ได้ โดยผสานการใช้งานกับหน้าจอทรงกลม Round OLED Display ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

เป็นรายละเอียดคร่าวทางที่ MINI ให้มาเป็นน้ำจิ้ม ส่วนสเปก ราคา รวมถึงของต่างๆ ที่ทาง มินิ ประเทศไทย จะจัดมาให้สำหรับเจ้าของ MINI ในไทยแบบละเอียดๆ สามารถติดตามได้หลังจากเปิดตัว 19 กรกฎาคมที่จะถึงนี้