เอ็มจี เขย่าตลาด EV ทุ่มดีลเด็ด MG EP PLUS 4.69 แสน

เอ็มจี ประเทศไทย สร้างแรงสั่นสะเทือนให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าช่วงครึ่งปีหลัง เปิดแคมเปญ “FINAL DEAL” หั่นราคา MG EP PLUS รถสเตชั่นแวกอน EV รุ่นยอดนิยม เหลือเพียง 469,900 บาท พร้อมอัดแน่นสิทธิประโยชน์ หวังกระตุ้นยอดขายและเปิดโอกาสให้คนไทยเข้าถึงรถ EV คุณภาพได้ง่ายขึ้น จำกัดจำนวนผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น

กรุงเทพฯ – บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย ประกาศกลยุทธ์เชิงรุกล่าสุดเพื่อกระตุ้นตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ด้วยการเปิดตัวแคมเปญพิเศษ “FINAL DEAL” สำหรับรถยนต์รุ่น MG EP PLUS (MY22) ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% ในรูปแบบสเตชั่นแวกอนที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาดก่อนหน้านี้

แคมเปญดังกล่าวสร้างความฮือฮาด้วยการปรับลดราคาจำหน่ายลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยเสนอราคาพิเศษเพียง 469,900 บาท จากราคาปกติ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการเคลื่อนไหวทางด้านราคาที่น่าจับตามองที่สุดในแวดวงยานยนต์ไฟฟ้าขณะนี้ ความเคลื่อนไหวนี้ถูกมองว่าเป็นการเปิดฉากการแข่งขันด้านราคาในตลาด EV อีกครั้ง และเป็นการตอกย้ำจุดยืนของเอ็มจีในการเป็น “รถยนต์พลังงานไฟฟ้าสำหรับทุกคน” (EV for Everyone)

สำหรับแคมเปญ “FINAL DEAL” นี้ เป็นข้อเสนอในจำนวนจำกัด และสงวนสิทธิ์สำหรับลูกค้าที่ทำการจองผ่านช่องทางออนไลน์บนเว็บไซต์ทางการของเอ็มจี (mgcars.com) เท่านั้น โดยมีระยะเวลาแคมเปญตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2568 ถึงวันที่ 15 กรกฎาคม 2568

สิทธิประโยชน์สุดคุ้ม ตอกย้ำความเป็นเจ้าของที่ง่ายขึ้น

นอกเหนือจากราคาที่น่าดึงดูดใจแล้ว เอ็มจี ยังมอบสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมเพื่อสร้างความคุ้มค่าสูงสุดให้กับผู้ซื้อในแคมเปญนี้ ประกอบด้วย:

ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครองนาน 1 ปี ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในปีแรกของการเป็นเจ้าของรถ
การรับประกันแบตเตอรี่นาน 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) สร้างความเชื่อมั่นในระยะยาวเกี่ยวกับหัวใจสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้า
ฟรี! ชุดพรมปูพื้น อุปกรณ์เสริมที่จำเป็นสำหรับการใช้งาน

การมอบข้อเสนอที่ครบวงจรเช่นนี้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของเอ็มจีในการขจัดอุปสรรคและข้อกังวลต่างๆ ของผู้บริโภคที่สนใจเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์สันดาปมาสู่รถยนต์ไฟฟ้า

เจาะลึกจุดเด่น MG EP PLUS: “ใหญ่กว่า กว้างกว่า คุ้มกว่า”

MG EP PLUS ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิดของการเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายและครอบคลุมในชีวิตประจำวันอย่างแท้จริง โดยชูจุดเด่นสำคัญ 4 ประการ ที่ทำให้รถรุ่นนี้ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในตลาด

1. มิติตัวถังและพื้นที่การใช้งาน (Dimension): จุดเด่นที่ชัดเจนที่สุดของ MG EP PLUS คือความเป็นรถสเตชั่นแวกอน ที่ให้พื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง นั่งสบายทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร และมีความอเนกประสงค์ในการใช้งานสูง โดยเฉพาะพื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านท้ายซึ่งมีความจุมากถึง 1,456 ลิตร เมื่อพับเบาะหลังลง ทำให้สามารถขนของขนาดใหญ่ หรือสัมภาระสำหรับการเดินทางไกลของทั้งครอบครัวได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ยังติดตั้งราวหลังคา (Roof Rail) ที่สามารถรองรับน้ำหนักได้ถึง 75 กิโลกรัม เพิ่มศักยภาพในการบรรทุกสัมภาระ เช่น กล่องเก็บของบนหลังคา หรืออุปกรณ์สำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง

2. สมรรถนะของรถไฟฟ้า (EV Performance): MG EP PLUS มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ตอบสนองได้ทันใจ ด้วยแรงบิดสูงสุดที่พร้อมใช้งานตั้งแต่เริ่มต้นเหยียบคันเร่ง สามารถทำอัตราเร่งจาก 0–100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 8.8 วินาที ซึ่งถือว่าเพียงพอและมอบความสนุกในการขับขี่ในเมืองและนอกเมือง ส่วนแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาดใหญ่ ช่วยให้รถสามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 380 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC) ครอบคลุมการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างสบาย

3. ความคุ้มค่าในการเป็นเจ้าของ (Value): ประเด็นด้านเศรษฐกิจถือเป็นหัวใจสำคัญของ MG EP PLUS ด้วยต้นทุนด้านพลังงานและการบำรุงรักษาที่ต่ำกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันอย่างชัดเจน จากข้อมูลของเอ็มจี การชาร์จไฟฟ้าจาก 0-100% มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยเพียงประมาณ 200 บาท หรือคิดเป็นอัตราสิ้นเปลืองไม่ถึง 1 บาทต่อกิโลเมตร ซึ่งประหยัดกว่ารถยนต์น้ำมันในพิกัดเดียวกันถึง 2-3 เท่า ยิ่งไปกว่านั้น ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาตามระยะทางตลอด 100,000 กิโลเมตรแรก อยู่ที่เพียง 7,828 บาทเท่านั้น ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายแฝงในระยะยาว ทำให้ผู้ใช้งานสามารถวางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4. ความสะดวกสบายและความปลอดภัย (Convenience & Safety): ตัวรถถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ไม่มีความซับซ้อน เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมติดตั้งระบบความปลอดภัยที่ครบครันตามมาตรฐาน ทั้งในเชิงป้องกัน (Active Safety) และเชิงปกป้อง (Passive Safety) เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกคนมั่นใจได้ในทุกการเดินทาง

สร้างความมั่นใจด้วยบริการหลังการขายและอะไหล่

เอ็มจีเน้นย้ำถึงความพร้อมในการดูแลลูกค้าหลังการขายอย่างครบวงจร เพื่อลดความกังวลที่อาจเกิดขึ้นกับการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า โดยมีเครือข่ายศูนย์บริการมาตรฐานกระจายตัวอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย พร้อมสถานีชาร์จเร็ว MG SUPERCHARGE ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ เอ็มจียังได้ลงทุนใน คลังอะไหล่ขนาดใหญ่ภายในประเทศ เพื่อให้สามารถบริหารจัดการและจัดส่งอะไหล่ได้อย่างรวดเร็ว ลดปัญหาระยะเวลาการรอคอยอะไหล่ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ผู้บริโภคใช้พิจารณาในการตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้า

แคมเปญ “FINAL DEAL” สำหรับ MG EP PLUS ในราคา 469,900 บาท จึงไม่ได้เป็นเพียงการนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าราคาพิเศษ แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนจากเอ็มจีถึงทิศทางการทำตลาดที่ต้องการให้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นสิ่งที่ “ทุกคน” สามารถเข้าถึงและเป็นเจ้าของได้จริง ถือเป็นโอกาสอันดีสำหรับผู้บริโภคชาวไทยที่กำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้าคันแรกที่ตอบโจทย์ทั้งด้านราคา ความอเนกประสงค์ และความคุ้มค่าในระยะยาว

ผู้ที่สนใจสามารถจอง MG EP PLUS ซึ่งมีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีขาว (Arctic White), สีดำ (Black Knight), สีแดง (Scarlet Red), และสีเทา (Metallic Grey) ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ตั้งแต่วันนี้

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: