Renault Group เดินหน้ายกระดับความปลอดภัยบนท้องถนน เปิดตัวระบบ Fireman Access นวัตกรรมดับเพลิงแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ช่วยลดระยะเวลาดับเพลิงจากหลายชั่วโมงเหลือเพียงไม่กี่นาที พร้อมเปิดให้ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นนำไปใช้ได้ฟรี หวังสร้างมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก
Renault Group สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ด้วยการประกาศเปิดให้ผู้ผลิตรถยนต์และผู้ผลิตชิ้นส่วนทั่วโลก สามารถนำระบบ Fireman Access ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ Renault พัฒนาขึ้นเพื่อแก้ปัญหาเพลิงไหม้แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ไปใช้งานได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น นับเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับความปลอดภัยของรถยนต์ไฟฟ้า และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Renault ในการสร้างสรรค์ยานยนต์ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน
Fireman Access เป็นผลงานจากการพัฒนาร่วมกันระหว่าง Renault Group และหน่วยดับเพลิง โดยมีหลักการทำงานที่เรียบง่ายแต่เปี่ยมประสิทธิภาพ นั่นคือ การติดตั้งแผ่นกาวพิเศษปิดทับช่องเปิดบนตัวเรือนแบตเตอรี่ ซึ่งจะทำหน้าที่ผนึกแบตเตอรี่ไว้ในสภาวะการใช้งานปกติ แต่เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ลุกลามมาถึงแบตเตอรี่ แรงดันน้ำจากหัวฉีดดับเพลิงจะดันแผ่นกาวนี้ออก ทำให้น้ำสามารถเข้าไปดับไฟที่เซลล์แบตเตอรี่ได้โดยตรง ช่วยหยุดยั้งปฏิกิริยาลูกโซ่ความร้อน (Thermal Runaway) ได้อย่างรวดเร็ว
Fireman Access: เพิ่มประสิทธิภาพการดับเพลิง EV อย่างเห็นได้ชัด
ด้วยระบบ Fireman Access นี้เอง ทำให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถควบคุมเพลิงไหม้แบตเตอรี่ EV ได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที จากเดิมที่ต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมงและใช้น้ำในปริมาณมาก นอกจากนี้ ยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดเพลิงไหม้ซ้ำ และช่วยให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถกลับไปปฏิบัติภารกิจอื่นได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
ลูกา เด เมโอ (Luca de Meo) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Renault Group กล่าวถึงความสำคัญของนวัตกรรมนี้ว่า “การสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อยกระดับความปลอดภัยบนท้องถนนเป็นส่วนหนึ่งของ DNA ของ Renault เราภาคภูมิใจอย่างยิ่งกับความร่วมมือที่เราได้พัฒนาร่วมกับหน่วยดับเพลิงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และวันนี้ ผมยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะเปิดให้นวัตกรรมนี้สามารถเข้าถึงได้อย่างอิสระ เพราะเมื่อพูดถึงเรื่องความปลอดภัย เราจำเป็นต้องทำลายกำแพงทุกอย่างลง”
ปัจจุบัน Fireman Access ได้รับการติดตั้งในรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดทุกรุ่นของ Renault Group ภายใต้แบรนด์ Dacia, Alpine และ Mobilise และด้วยนโยบายการเปิดให้ใช้งานสิทธิ์ในเทคโนโลยีนี้ได้ฟรี ผู้ผลิตรถยนต์และผู้ผลิตชิ้นส่วนรายอื่น ๆ จึงสามารถนำเทคโนโลยีนี้ไปปรับใช้ และร่วมกันพัฒนาต่อยอดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ในภาพรวมได้
ตอกย้ำพันธกิจด้านความปลอดภัยระดับโลกของ Renault
การเปิดให้ใช้งาน Fireman Access ได้ฟรีนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Renault ในการสนับสนุนความพยายามขององค์การสหประชาชาติในการส่งเสริมความปลอดภัยบนท้องถนน โดยเมื่อไม่นานมานี้ Renault ได้เข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีว่าด้วยความปลอดภัยทางถนนโลก ครั้งที่ 4 ณ เมืองมาร์ราเกช ประเทศโมร็อกโก เพื่อนำเสนอความพยายามของ Renault ในการปรับปรุงความปลอดภัยทางถนนทั่วโลก
นอกจากนี้ Renault Group Morocco ยังใช้โอกาสนี้ในการกระชับความสัมพันธ์กับหน่วยงานท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง และเน้นย้ำถึงโครงการริเริ่มต่าง ๆ เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยทางถนนในโรงเรียน
โครงการ Human First ของ Renault Group ที่เปิดตัวในปี 2566 เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงแนวทางการทำงานด้านความปลอดภัยที่ครอบคลุมรอบด้านของ Renault โดยโครงการนี้ได้รวบรวมวิศวกร ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย หน่วยกู้ภัย และ LAB (ห้องปฏิบัติการวิจัยอุบัติเหตุของ Renault) เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อพัฒนานวัตกรรมด้านความปลอดภัยขั้นสูง โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วยปรับปรุงการป้องกันอุบัติเหตุและมาตรการความปลอดภัยหลังเกิดอุบัติเหตุ
แนวทางแบบองค์รวมเพื่อความปลอดภัย: 4 เสาหลักสำคัญ
กลยุทธ์ด้านความปลอดภัยทางถนนของ Renault Group มุ่งเน้นไปที่ 4 ด้านหลัก ได้แก่ การป้องกัน การแก้ไข การปกป้อง และการช่วยเหลือ โดยใช้เทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาททั้งก่อน ระหว่าง และหลังเกิดอุบัติเหตุ เพื่อปรับปรุงความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ฐานข้อมูลอุบัติเหตุที่ไม่เหมือนใคร และความร่วมมือกับชุมชนวิทยาศาสตร์ หน่วยกู้ภัย และหน่วยงานภาครัฐ เป็นรากฐานสำคัญในการสนับสนุนกลยุทธ์นี้
โครงการริเริ่มด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่องของ Renault ยังรวมถึงระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) อุปกรณ์ความปลอดภัยหลังเกิดอุบัติเหตุ และบริการที่เชื่อมต่อ เช่น Safety Score และ Safety Coach นวัตกรรมเหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดอุบัติเหตุและทำให้การเดินทางปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน
ความสำเร็จด้านความปลอดภัยที่สำคัญของ Renault Group
- กว่า 50 ปีแห่งการเพิ่มประสิทธิภาพความปลอดภัยบนยานพาหนะ
- วิศวกรและช่างเทคนิค 600 คน ทุ่มเทให้กับงานด้านความปลอดภัย
- ยื่นจดสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยมากกว่า 2,000 รายการ ตั้งแต่ปี 2513
- ศูนย์วิจัยด้านความปลอดภัยที่ทันสมัย 3 แห่งในฝรั่งเศส
- 15 ปีแห่งความร่วมมือกับหน่วยดับเพลิง
- เจ้าหน้าที่ดับเพลิงมากกว่า 5,000 คน ได้รับการฝึกอบรมใน 19 ประเทศทั่วยุโรป แอฟริกาเหนือ และละตินอเมริกา
- Fireman Access เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถยนต์ไฟฟ้าและปลั๊กอินไฮบริดทุกรุ่นของ Renault Group
- QRescue ระบบตอบสนองฉุกเฉินของ Renault ติดตั้งอยู่ในรถยนต์ Renault ทุกรุ่น
การตัดสินใจของ Renault Group ในการเปิดให้ใช้งานระบบ Fireman Access ได้ฟรี ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับความปลอดภัยของรถยนต์ไฟฟ้าในอุตสาหกรรมยานยนต์ ด้วยการแบ่งปันนวัตกรรมที่ช่วยชีวิตนี้ และส่งเสริมความร่วมมือ Renault มีเป้าหมายที่จะเร่งการนำโซลูชันการเดินทางที่ปลอดภัยและยั่งยืนยิ่งขึ้นไปใช้ทั่วโลก
#Renault #FiremanAccess #EVSafety #SafetyInnovation #OpenSource #RoadSafety #SustainableMobility #Innovation #Technology