การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เดินหน้านโยบายส่งเสริมให้คนหันมาซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น พร้อมเปิดให้ผู้ประกอบการยื่นขอติดตั้งจุดชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ EV ได้ฟรี หากเข้าเกณฑ์ 3 เงื่อนไข คือ แยกมิเตอร์ เป็นพื้นที่สาธารณะ และ ติดวงจร Smart Charging เชื่อมต่อกับ กฟน.
กฟน. นั้นถือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการติดตั้งจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้ตามมาตรฐาน และรู้อันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการติดตั้งผิดพลาด นอกจากนี้ยังช่วยลดต้นทุนการติดตั้งจุดชาร์จเองที่มีค่าใช้จ่ายต่อหัวชาร์จอยู่ที่ประมาณ 2 ล้านบาท และต้องมีคนเข้ามาชาร์จตลอดเวลา ถึงจะสามารถทำกำไรได้
ขณะที่จุดคุ้มทุนของ กฟน. จากการติดตั้งจุดชาร์จให้ฟรีนั้น อยู่ที่ 75% ของเวลาที่คนเข้ามาชาร์จ ถ้าน้อยกว่านั้นขาดทุน แต่ถ้าถามว่าทำไมการไฟฟ้าต้องลงทุน
จาตุรงค์ สุริยาศศิน รองผู้ว่าการธุรกิจและบริการ การไฟฟ้านครหลวง ให้คำตอบว่า มันเป็นทฤษฎีไก่กับไข่ ถ้า กฟน.ไม่ทำ รถ EV จะไม่เกิด คนจะซื้อรถ EV จะตัดสินใจเรื่องที่ชาร์จว่ามีเพียงพอหรือไม่ ขณะที่คนซื้อส่วนมากชาร์จแต่กับที่บ้าน เพราะออกมาชาร์จนอกสถานที่มันแพง ซึ่ง กฟน. ยอมขาดทุนเพื่อแลกกับการสร้างระบบนิเวศ การเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มในอนาคต ซึ่งผลพลอยได้มากกว่าจุดขาดทุน
สำหรับเงื่อนไขการติดตั้งระบบชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าฟรีของ กฟน. มี 3 ข้อ คือ
1.ต้องแยกมิเตอร์ เพื่อให้ กฟน. สามารถแยกค่าไฟที่เกิดขึ้นได้เฉพาะกับจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งวันที่ 1 มกราคม 2565 นี้จะเริ่มใช้อัตราราคา 6.50 บาท ต่อยูนิต
2.ต้องเป็นพื้นที่สาธารณะอย่างแท้จริง คือเป็นพื้นที่ๆ ใครก็สามารถเข้าไปจอดชาร์จได้ เช่นเดียวกับสถานีบริการน้ำมัน ไม่ใช้พื้นที่สำหรับบริษัท หรือ องค์กร ใดโดยเฉพาะ
3.ติดตั้งวงจร Smart Charging ที่เชื่อมต่อกับ กฟน. เพื่อให้สามารถสั่งปลดไฟฟ้าได้กรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน
ทั้งนี้ปัจจุบันมีคนยื่นความจำนงมามากกว่า 100 ราย แต่ผ่านเงื่อนไขแค่ 20 รายเท่านั้น
ภาพประกอบจาก https://www.mea.or.th/home