สรรพสามิต เตรียมรื้อภาษีรถยนต์รับเทคโนโลยีใหม่

สรรพสามิต เตรียมรื้อภาษีรถยนต์รับเทคโนโลยีใหม่

สรรพสามิต เร่งผลักดันรถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยอยู่ระหว่างศึกษาแนวทางการปรับโครงภาษีทั้งระบบ เพื่อลดช่องว่างการได้เปรียบของภาษีรถปิ๊กอัพและกดดันให้มีการพัฒนาไปสู่เทคโนโลยีใหม่ ภายใต้มาตรการภาษีเดียวกัน ผลักดันให้เกิดการใช้รถยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศ ซึ่งส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม

นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรม สรรพสามิต เป็นประธานในการประชุมแนวทางการปฏิรูปโครงสร้างภาษีรถยนต์เพื่อรองรับเทคโนโลยีในอนาคต โดยมีผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิต กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และผู้ประกอบการเข้าร่วมประชุมดังกล่าว ระบุว่า แนวทางการปรับโครงสร้างทางภาษีดังกล่าวขึ้นอยู่กับซูเปอร์บอร์ดด้านรถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาล ซึ่งจะเป็นผู้กำหนดทิศทางและให้ความชัดเจนในการพัฒนาต่อไป

ทั้งนี้ ปัจจุบันระบบการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตในปัจจุบัน รถยนต์ไฟฟ้า(BEV)ปกติที่ไม่ได้อยู่ในแผนการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอจะถูกจัดเก็บในอัตรา 8% และหากอยู่ในเกณฑ์ของการส่งเสริมการลงทุนจะถูกจัดเก็บเพียง 2% และยังมีความพยายามศึกษาการลดภาษีสรรพสามิตลงให้เหลือ 0% เพื่อกระตุ้นให้เกิดการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศให้มากขึ้น

ขณะที่การนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า (BEV) นั้นมีเพียงการนำเข้าจากประเทศจีนแห่งเดียวเท่านั้นที่ได้รับสิทธิพิเศษภาษีนำเข้า 0% จากข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน

ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ได้ถูกจัดตั้งขึ้นโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงนามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 38/2563 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ เพื่อให้การขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2563 และมีการประชุมนัดแรก โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ณ ห้องประชุมสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา

โดยมีอำนาจหน้าที่ที่สำคัญ 5 ด้านด้วยกัน แบ่งเป็น 1.กำหนดทิศทางและเป้าหมายในการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และมติคณะรัฐนตรีที่เกี่ยวข้อง 2.พิจารณาและให้ความเห็นชอบแผนงาน แผนปฏิบัติการ และโครการต่างๆของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวกับการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าให้สอดคล้องกันยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง

3.บูรณาการ และติตตามประเมินผลการตำเนินงานขับเคลื่อนการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าตามแผนงานและกรอบแนวทางที่กำหนดไว้ รวมทั้งให้คำแนะนำ และให้ข้อสนอแนะในการดำเนินการที่เกี่ยวข้องเพื่อให้นโยบายการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าเกิดผลในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ตลอดจนรายงานผลการดำเนินงานต่อคณะรัฐมนตรี 4.แต่งตั้งคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงานเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการได้ตามความเหมาะสม และ 5.ปฏิบัติภารกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตามที่คณะรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรีมอบหมาย