กฟผ.เอาจริงนำร่อง EGAT E-Bike รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ใช้งานในพี้นที่ กฟผ. 19 แห่งทั่วประเทศ สานต่อโครงการรถมินิบัสไฟฟ้า ผุดแนวคิดสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ทำให้ใช้งานได้ต่อเนื่อง
นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้คิกออฟโครงการจักรจักรยานยนต์ไฟฟ้า หรือที่เรียกว่า EGAT E-Bike ที่ทางกฟผ.พัฒนาขึ้นมาเอง ต่อจากโครงการรถมินิบัสไฟฟ้าหรือ EV Bus ที่พัฒนาสำเร็จแล้วจำนวน 51 คัน นำมาใช้งานในพื้นที่ กฟผ. จำนวน 19 แห่งทั่วประเทศ
EGAT E-Bike เป็นรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่ถูกออกแบบให้ขับขี่ได้ง่าย มีความปลอดภัยสูง มีความเร็วสูงสุด 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเหมาะกับนำมาใช้งานภายในเมือง สามารถวิ่งได้ประมาณ 95 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง คิดเป็นค่าใช้จ่ายเพียง 13 สตางค์ต่อกิโลเมตรเท่านั้น
แบตเตอรี่ของ EGAT E-Bike เป็นแบบเอ็มเอ็มซีที่ถอดสับเปลี่ยนได้จำนวน 2 ลูก ทำให้สามารถที่จะชาร์ตหลังใช้งานทั่วไป หรือถ้าต้องการใช้งานต่อเนื่องก็เพียงแค่สับเปลี่ยนแบตเตอรี่ก็จะสามารถใช้งานต่อได้ทันที่ไม่ต้องรอชาร์ตไฟ
สำหรับแนวทางสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ ในช่วงแรกทางกฟผ.ได้จัดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าแบบสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ จำนวน 3 แห่ง ที่ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. สำนักงานกลาง จ.นนทบุรี, โรงไฟฟ้าแม่เมาะ จ.ลำปาง และศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ลำตะคอง จ.นครราชสีมา ซึ่งมีระบบ RFID Access ควบคุมบริหารจัดการอำนวยความสะดวกในการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้กับผู้ใช้งาน
ทางกฟผ.คาดว่าการส่งเสริมการใช้ EGAT E-Bike ภายในองค์กรของกฟผ. จะสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 37 ตันต่อปี และลดฝุ่นประมาณ 838,000 มิลลิกรัมต่อปี ยังตั้งเป้าขยายผลสู่หน่วยงานภาครัฐในพื้นที่อำเภอบางกรวยภายใต้โครงการ Bangkruai Green Community ภายในปี 2564 รองรับกลยุทธ์ Air theme ในการดูแลคุณภาพอากาศ รวมถึงการพัฒนา EGAT E-Bike ในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อรองรับกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย ร่วมมือกับสถานศึกษาและผู้ประกอบการพัฒนาหลักสูตรและฝึกอบรมการซ่อมบำรุงรักษารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าและอุปกรณ์ต่างๆ สร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศและเดินหน้าสู่พลังงานสีเขียวอย่างยั่งยืน