เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ประกาศเร่งขับเคลื่อนแผนกลยุทธ์ ‘Beyond100’ ซึ่งนับเป็นกลยุทธ์ที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมมากที่สุด โดยกุญแจสำคัญของกลยุทธ์นี้คือแผน Five-in-Five ซึ่งเป็นแผนที่จะเปิดตัวอัครยนตรกรรมไฟฟ้ารุ่นใหม่ทุกปีตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป ตอกย้ำนิยามใหม่ของเบนท์ลีย์ในฐานะผู้ผลิตอัครยนตรกรรมที่ยั่งยืน
เบนท์ลีย์ มอเตอร์สได้เปิดเผยการลงทุนที่มีมูลค่ากว่า 2.5 พันล้านปอนด์ หรือ ประมาณ 111,986,400 บาท เพื่อบรรลุกลยุทธ์นี้ และตั้งเป้าว่าตั้งแต่ปี 2025 อัครยนตรกรรมไฟฟ้าคันแรกจะได้รับการออกแบบ พัฒนา และผลิต ณ สำนักงานใหญ่ในเมืองครูว์ ประเทศอังกฤษ การเปิดเผยดังกล่าวเป็นแรงผลักดันสำคัญให้กับทีมงานที่เมืองครูว์ ภูมิภาค และสหราชอาณาจักรอันเป็นฐานการผลิตที่มีมูลค่าสูงและยั่งยืน
การลงทุนดังกล่าวจะช่วยให้เกิดการคิดค้นโครงสร้างพื้นฐานด้านการผลิตของเมืองครูว์ขึ้นมาใหม่เพื่ออนาคตสำหรับผลิตภัณฑ์รุ่นต่อไปและทีมงานของเบนท์ลีย์ ซึ่งกำลังจะกลายเป็น ‘Dream Factory’ โรงงานแห่งอนาคตชั้นนำระดับโลกที่มุ่งเน้นเทคโนโลยีดิจิทัลและมีความยืดหยุ่นพร้อมด้วยระบบการผลิตที่ครบครันและล้ำสมัย
–GWM จับมือ 41 พาร์ทเนอร์ เสริมแกร่งธุรกิจ ตั้งเป้าผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าของไทย
–KPMG เผยมุมมอง อุตสาหกรรมยานยนต์ยังเติบโต ชี้ส่วนแบ่งตลาด EV จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
บริษัทฯ ได้พัฒนาและสร้างสรรค์สถานที่ทางประวัติศาสตร์อย่างเมืองครูว์ขึ้นมาใหม่ โดยการสร้างโรงงานที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนและผ่านการรับรองระดับชั้นแนวหน้าในอุตสาหกรรม การลงทุนใหม่และการเร่งขับเคลื่อนกลยุทธ์ ‘Beyond100’ จะเป็นพื้นฐานในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในขั้นตอนการผลิตและการดำเนินงานในโรงงานทั้งหมดเพื่อให้สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของเบนท์ลีย์ที่จะดำเนินงานด้วยความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2030
โดยแผนการล่าสุดจะเป็นการขยายกำลังการผลิตพลังงานไฟฟ้า ณ โรงงาน ในเมืองครูว์ ซึ่งตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนแผงโซลาร์เซลล์จาก 30,000 เป็น 40,000 ในอีกสองปีข้างหน้า มากไปกว่านั้น เบนท์ลีย์ มอเตอร์สกำลังทดสอบการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพสำหรับรถยนต์ ซึ่งรวมถึงอัครยนตรกรรมคลาสสิกอันเป็นเอกลักษณ์ของเบนท์ลีย์ ส่วนผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายของเบนท์ลีย์จะได้รับการสนับสนุนให้บรรลุเป้าหมายในด้านความเป็นกลางทางคาร์บอนทั้งระบบภายในปี 2030 พร้อมด้วยซัพพลายเออร์ในการบรรลุมาตรฐานด้านความยั่งยืน การดำเนินการนี้จะขยายไปสู่เครือข่ายผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายทั่วโลก โดยแต่ละแห่งมีเป้าหมายด้านความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2025
แนวทางของ Dream Factory แห่งใหม่ได้รวมถึงการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากขั้นตอนการผลิต โดยหลังจากประสบความสำเร็จในการผลิตที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2019 เบนท์ลีย์ มอเตอร์สยังตั้งเป้าที่จะลดการใช้น้ำ ของเสีย และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้านอื่นๆ จากการผลิตรถยนต์ทุกคัน ณ โรงงาน เมืองครูว์ จนถึงปี 2030
สำหรับอัครยนตรกรรมเบนท์ลีย์ บริษัทฯได้เป็นผู้นำด้านการผลิตอัครยนตรกรรมไฮบริดชั้นนำและพร้อมตอกย้ำความเป็นผู้นำด้วยการเปิดตัว Flying Spur PHEV ในปี 2022 รวมถึงรุ่นย่อยอีก 5 รุ่น เพิ่มจาก Bentayga PHEV รุ่นปัจจุบันเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของกลุ่มลูกค้า โดยคาดว่ายอดขายรถยนต์รุ่นไฮบริดจะเพิ่มขึ้นกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้
Adrian Hallmark ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส กล่าวว่า “การเร่งขับเคลื่อนกลยุทธ์ ‘Beyond100’ ของเราพร้อมไปกับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ณ โรงงาน เมืองครูว์กับการลงทุนกว่า 2.5 พันล้านปอนด์ ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์ 102 ปีของเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เปรียบเสมือนแสงสว่างสำหรับครอบครัวเบนท์ลีย์ ซัพพลายเออร์ และพันธมิตรของเรา ตลอดจนอุตสาหกรรมยานยนต์และการผลิตในสหราชอาณาจักร
“แถลงการณ์ล่าสุดเกี่ยวกับแผนกลยุทธ์ของเบนท์ลีย์ได้ยืนยันการเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีชื่อเสียงของเรา โลกกำลังเปลี่ยนไปและเราจำเป็นต้องมีส่วนร่วมในการทำให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้ได้น้อยที่สุด นั่นหมายถึงการบรรลุเป้าหมายของเราในการมีความเป็นกลางทางคาร์บอนทั้งระบบภายในปี 2030 และตอกย้ำบทบาทของเราในฐานะผู้นำด้านการผลิตอัครยนตรกรรมอย่างยั่งยืน”