ไม่ใช่แค่ขับสนุก แต่ยังปลอดภัย! MINI Cooper ไฟฟ้า รุ่นล่าสุด สร้างปรากฏการณ์คว้าคะแนนสูงสุด 5 ดาว จาก Euro NCAP การันตีมาตรฐานความปลอดภัยระดับยุโรป ทั้งระบบป้องกันผู้โดยสาร ผู้ใช้ถนน และเทคโนโลยีหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ
ยนตรกรรมไฟฟ้าขนาดเล็กที่มาพร้อมดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์อย่าง MINI Cooper สร้างชื่ออีกครั้งในวงการยานยนต์ระดับโลก เมื่อได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดระดับ 5 ดาว จาก Euro NCAP (European New Car Assessment Programme) สถาบันประเมินความปลอดภัยของรถยนต์ใหม่ในยุโรป ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นของ MINI ในการพัฒนาเทคโนโลยีความปลอดภัยควบคู่ไปกับสมรรถนะและความสนุกสนานในการขับขี่
ผลการทดสอบล่าสุดของ Euro NCAP ได้มอบคะแนนสูงสุดให้กับ MINI Cooper ไฟฟ้า ทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็น MINI Cooper E, MINI Cooper SE และ MINI Cooper JCW E ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพของระบบความปลอดภัยทั้งแบบ Passive Safety (ความปลอดภัยเชิงรับ) และ Active Safety (ความปลอดภัยเชิงรุก) ที่ติดตั้งมาในรถยนต์รุ่นนี้
Euro NCAP มีเป้าหมายหลักในการยกระดับความปลอดภัยของยานยนต์อย่างต่อเนื่อง เพื่อลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บของผู้โดยสารและผู้ใช้ถนนร่วมกัน โดยมีวิสัยทัศน์ระยะยาวคือ “Vision Zero” หรือการลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนในยุโรปให้เป็นศูนย์ ด้วยเหตุนี้ มาตรฐานการทดสอบของ Euro NCAP จึงมีความเข้มงวดและครอบคลุมมากขึ้นในทุกๆ ปี โดยมีการเพิ่มเกณฑ์การประเมินในส่วนของการปกป้องคนเดินถนนและผู้ขับขี่จักรยาน รวมถึงขยายขอบเขตการทดสอบทั้งในด้านความปลอดภัยเชิงรับและเชิงรุก
การที่ MINI Cooper ไฟฟ้า สามารถคว้าคะแนนสูงสุด 5 ดาว จาก Euro NCAP ได้นั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก ซึ่งมักจะมีข้อจำกัดด้านราคา ทำให้รถยนต์ในกลุ่มนี้หลายรุ่นไม่สามารถทำคะแนนได้สูงเท่าที่ควร การได้รับคะแนนสูงสุดจึงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยาก
คะแนน 5 ดาว จาก Euro NCAP เป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในยุโรปในด้านความปลอดภัยจากอุบัติเหตุ และมีการปรับปรุงมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง การให้คะแนนนี้ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเปรียบเทียบคุณสมบัติด้านความปลอดภัยของรถยนต์รุ่นใหม่ได้อย่างรวดเร็วและเข้าใจง่าย โดยรถยนต์ที่จะได้รับคะแนนสูงสุด 5 ดาว จะต้องมีคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมในการป้องกันการชน และมีเทคโนโลยีที่ครอบคลุมและใช้งานได้จริงในการหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ
MINI Cooper ไฟฟ้า ไม่เพียงแต่โดดเด่นในเรื่องสมรรถนะและความสนุกสนานในการขับขี่ตามแบบฉบับ “Go-Kart Feeling” เท่านั้น แต่ยังมอบความสะดวกสบายและพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวาง แม้จะมีขนาดตัวถังที่กะทัดรัด ดีไซน์ใหม่ที่เรียบง่ายแต่ทันสมัย ผสานกับระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ทำให้ MINI Cooper เจเนอเรชันที่ 5 นี้ เป็นรถยนต์ 3 ประตู ที่ตอบโจทย์การใช้งานในเมืองได้อย่างลงตัว การผสมผสานระหว่างความสนุกในการขับขี่และความปลอดภัยระดับสูงนี้ ตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำของ MINI Cooper ไฟฟ้า ในเซกเมนต์เดียวกัน และยังสะท้อนถึงความเป็นแบรนด์ระดับพรีเมียมอีกด้วย
นอกเหนือจากความปลอดภัยเชิงรับและเชิงรุกแล้ว คะแนนสูงสุดที่ MINI Cooper ไฟฟ้า ได้รับจากการทดสอบ Euro NCAP ยังมาจากประสิทธิภาพในการปกป้องคนเดินถนนและผู้ขับขี่จักรยาน รวมถึงระบบที่มีประสิทธิภาพในการหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ อีกหนึ่งความโดดเด่นคือ ระบบดึงกลับเข็มขัดนิรภัยอัตโนมัติ (pelvic belt pretensioner) ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานใหม่ใน MINI Cooper ไฟฟ้า ทุกรุ่น
MINI Cooper ไฟฟ้า ทำคะแนนได้ดีเยี่ยมในทั้ง 4 ด้านหลักของการประเมินความปลอดภัย ได้แก่
- การปกป้องผู้โดยสาร (Occupant Protection): MINI Cooper 3 ประตู ทำคะแนนได้ถึง 89% ซึ่งเป็นระดับคะแนนที่โดยปกติแล้วจะพบได้ในรถยนต์ขนาดใหญ่กว่า
- ความปลอดภัยสำหรับเด็ก (Child Safety): ทำคะแนนได้ 87%
- ระบบช่วยเหลือด้านความปลอดภัย (Safety Assistants): ทำคะแนนได้ 79%
- การปกป้องคนเดินถนน (Pedestrian Protection): ทำคะแนนได้สูงถึง 77% ซึ่งเป็นระดับที่สูงมากสำหรับรถยนต์ขนาดกะทัดรัด
อุปกรณ์มาตรฐานที่ติดตั้งมาอย่างครบครันใน MINI Cooper ไฟฟ้า โดยเฉพาะระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่มีส่วนสำคัญต่อความปลอดภัย มีบทบาทสำคัญในการทำให้รถยนต์รุ่นนี้ได้รับคะแนนสูงสุด นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาความปลอดภัยเชิงรับให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น ด้วยแนวคิดด้านความปลอดภัยแบบบูรณาการ
ความสำเร็จของ MINI Cooper ไฟฟ้า ในครั้งนี้ ไม่ใช่ครั้งแรกของแบรนด์ MINI เพราะในเดือนธันวาคม 2024 ที่ผ่านมา MINI Countryman ใหม่ ก็เพิ่งจะคว้าคะแนนสูงสุด 5 ดาว จาก Euro NCAP ไปเช่นกัน ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่า MINI ไม่เพียงแต่ผลิตรถยนต์ที่น่าดึงดูดใจเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นพิเศษอีกด้วย
#MINICooper #EuroNCAP #5Stars #ElectricVehicle #SafetyFirst #GoKartFeeling #MINI #รถยนต์ไฟฟ้า #ความปลอดภัย